ถือว่าเป็นยุคของการปรับตัวครั้งใหญ่ในวงการการตลาด ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ เจ้า COVID-19 ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมการโฆษณาในทุกแพลตฟอร์ม เป็นสาเหตุให้การเดินทางของผู้บริโภคถูกจำกัด สื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก นักการตลาดและนักโฆษณาจำเป็นที่จะต้องจัดสรรงบใหม่ ทำให้เงินในการใช้โฆษณาทั่วโลกมีการลดลงทันที จากข้อมูลของ Publicis รายได้ต่อปีในจีนลดลง 15% ในขณะที่ประเทศในยุโรปลดลงโดยเฉลี่ย 9% โดยเงินโฆษณาของฝรั่งเศสและเยอรมนีลดลง 12% และ 7% ตามลำดับ
ถึงแม้ว่าบางประเทศยอมให้ผู้บริโภคเริ่มทยอยออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้สื่อ Out of Home มีโอกาสฟื้นตัวจากวิกฤตที่ผ่านมาได้ นักการตลาดส่วนใหญ่จึงต้องเปลี่ยนแผนกลยุทธ์เพื่อให้เหมาะสมและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อการอยู่รอดของสื่อ Out of Home ต่อไปในอนาคต
ให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายและ Location มากขึ้น
ถึงแม้ข้อจำกัดของมาตรการล็อกดาวน์จะเริ่มผ่อนคลายลงในบางประเทศ แต่การแพร่ระบาดของโรคระบาดนั้นสร้างผลกระทบให้กับกลุ่มบริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านชั้นนำหลายที่ พวกเขาจึงตัดสินใจทำการลดต้นทุนลง เนื่องจากประชากรมากกว่าหนึ่งในสามของโลก ถูกจำกัดให้อยู่ภายในบ้าน
ดังนั้นการหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ จึงเป็นเรื่องที่ควรจะโฟกัสมากขึ้น ยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ เราอาจยิ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกกลุ่มมากเท่านั้น รวมไปถึงการเลือกทำเลในการตั้งสื่อ Out of Home ในพื้นที่ที่ผู้คนผ่านไปผ่านมามากที่สุด เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าสะดวกซื้อ
เรื่องความคิดสร้างสรรค์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูดและสร้างความบันเทิงให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังสร้างความสนใจ และชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งสื่อ Out of Home ง่ายต่อการมองเห็น การถูกถ่ายภาพและการแชร์ต่อจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ต่างๆในการสร้างการมองเห็น แถมทุนในการสร้างสื่อก็ค่อนข้างน้อยอีกด้วย
การพรีเซนต์สินค้าลดราคาที่มีอยู่จริงในสถานที่นั้น ๆ
เป็นผลพลอยได้จากวิกฤตโลกครั้งใหญ่นี้ ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยตกงานหรือมีรายได้ลดลง ผู้บริโภคจึงสำนึกในการตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้น เป็นเหตุผลให้แบรนด์ต่างๆเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดความสนใจในการซื้อใหม่ ซึ่งนี่เป็นโอกาสที่ควรจะคว้าไว้สำหรับเจ้าของสื่อแบบ Digital Out of Home ที่อยู่บริเวณร้านค้าปลีก
การติดตั้งสื่อ Digital Out of Home ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกอื่นๆ เพื่อโปรโมตรายการขายโปรโมชั่นพิเศษที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใกล้เคียง โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายในการเชื่อมต่อผู้ซื้อกับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการในราคาที่จับต้องได้มากกว่า
จากการสำรวจที่จัดทำโดย Doodle พบว่า 85% ของผู้ที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์และมารับสินค้าในร้านค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าเพิ่มเติมเมื่อไปที่หน้าร้าน ดังนั้นการแสดงเนื้อหาการขายที่น่าสนใจบนหน้าจอแสดงผลที่อยู่ใกล้ทางเข้าและในที่จอดรถ จะสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นได้ ผู้บริโภคจะถูกดึงดูดและเกิดความอยากได้มากขึ้นเมื่อเห็นโฆษณาของสินค้าที่สามารถซื้อได้ในสถานที่นั้นเลย มากกว่าโฆษณาที่เห็นแล้วต้องทำการซื้อในภายหลัง
เราจะต้องอยู่รอด ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่
ยังไม่มีทีท่าว่าวิกฤตโลกครั้งนี้จะจบในเร็วๆวัน จึงเป็นงานที่หนักของเหล่านักการตลาดที่จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อยู่เสมอ เพื่อเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ขอเอาใจช่วยพี่ๆน้องๆทุกคน ให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะคะ จะมีเทคนิคอะไรมานำเสมออีก อย่าลืมติดตามได้ในบทความหน้าค่ะ
