Pride Month เป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจที่สำคัญต่อชาว LGBTQ+ จัดขึ้นหลายประเทศทั่วโลกในระหว่างช่วงเดือนมิถุนายน ของทุกปี เพื่อที่จะแสดงออกถึงความเท่าเทียมกันทางเพศ และเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้รับ โดยกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน และสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย หรือสื่อนอกบ้านต่างก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันกิจกรรมนี้ให้คนได้รู้จักเกี่ยวกับ Pride Month มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
จุดเริ่มต้นของ Pride Month
โดยจุดเริ่มต้นของ Pride Month ต้องย้อนกลับไปเกือบ 60 ปี ในเหตุการณ์การจลาจล สโตนวอลล์ ที่ตำรวจใช้ความรุนแรงอยู่เสมอในผับของกลุ่มคนรักร่วมเพศ จนเกิดเป็นการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มคนรักร่วมเพศกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่หลายวัน ทำให้เหตุการณ์ที่สโตนวอลล์ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยกิจกรรมของ Pride Month ก็จะมีสีประจำตัวเช่นกัน คือ สีรุ้ง ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของคนในสังคม เป็นเหมือนสีที่มีความหลากหลายและสวยงาม จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นสีที่สื่อสารเพื่อแสดงพลังและสนับสนุนการยอมรับความหลากหลาย โดยแต่ละสีก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันไป
ความหมายของสีต่าง ๆ ในสีรุ้ง
โดยสีที่เป็นตัวแทนของ ชาว LGBTQ+ นั้นก็คือ สีรุ้ง จะมีส่วนประกอบของสีทั้ง 6 สี ดังนี้
สีแดง หมายถึงชีวิต เช่น สมรสเท่าเทียม ยุติความรุนแรงทางเพศ
สีส้ม หมายถึงการเยียวยา เช่น สวัสดิการเพื่อเพศหลากหลาย
สีเหลือง หมายถึงพระอาทิตย์ เช่น การปฏิบัติต่อเพศที่หลากหลาย
สีเขียว หมายถึงธรรมชาติ เช่น เพศวิถี ทำเรื่องเซ็กส์ให้ถูกกฎหมาย
สีน้ำเงิน หมายถึงศิลปะ เช่น สันติภาพสำหรับทุกชีวิต สิ่งแวดล้อม
สีม่วง หมายถึงจิตวิญญาณ เช่น การเชื่อมั่นในจิตวิญญาณและศาสนา
สื่อนอกบ้านสร้างอิทธิพลยังไงกับ Pride Month
อย่างที่ทราบกันดี ว่าสื่อนอกบ้านมีหน้าที่สำคัญคือสร้างการรับรู้ให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะถูกเข้ามาแทนที่โดยสื่อออนไลน์ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนได้หมด เพราะแต่ละสื่อสร้างอิทธิพลให้กับผู้ที่พบเห็นได้ไม่เท่ากัน โดยแคมเปญส่วนมากจะนิยมใช้สื่อนอกบ้านหรือเน้นไปที่การเปลี่ยน Packaging ให้เข้ากับการผลักดัน Pride Month เพราะว่าสามารถสร้างความสนใจและดึงดูดเกิดเป็นภาพจำได้มากกว่าสื่อออนไลน์ จึงไม่ต้องแปลกใจที่แบรนด์ต่าง ๆ นิยมใช้สื่อนอกบ้านในการสร้างแคมเปญเกี่ยวกับเดือน Pride Month และแนวโน้มการเติบโตของ LGBTQ+ เพิ่มขึ้นด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 438 ล้านคน และประเทศไทยมีประชากร LGBTQ+ ประมาณ 4 ล้านคน อีกทั้งยังเป็นอันดับที่ 4 ในเอเชียอีกด้วย
แบรนด์ต่าง ๆ ที่ใช้สื่อนอกบ้านในการผลักดัน Pride Month
ในต่างประเทศนั้น ได้มีการเคลื่อนไหวและผลักดันแคมเปญอย่าง Pride Month อย่างเต็มที่ มีหลายแบรนด์ที่สนับสนุนอย่างจริง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ให้เช่าสื่อนอกบ้านเอง แบรนด์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งทีมกีฬา ก็ให้ความสำคัญกับแคมเปญนี้
Lamar Advertising
แบรนด์ดังเกี่ยวกับสื่อนอกบ้านใน แอลเอ สหรัฐอเมริกา ที่มีป้ายเป็นของตัวเองมากกว่า 356,000 แห่ง ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกิจกรรม Pride Month เช่นกัน ด้วยการเปิดตัวแคมเปญประโยคง่าย ๆ ที่ยอมรับและสนับสนุนชาว LGBTQ+ อย่างประโยคที่ว่า Love is Love บนป้ายดิจิทัลของตัวเองมากกว่า 200 ป้ายใน 30 ประเทศ โดย CEO ของ Lamar Advertising ได้เล็งเห็นความสำคัญและบริษัทอยากที่จะสนับสนุนให้ผู้คนนั้น ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ซึ่งความเท่าเทียมถือเป็นจุดเด่นของวัฒนธรรมที่ Lamar มาโดยตลอด โดย CEO ของ Lamar Advertising หวังว่าข้อความที่แบรนด์ได้แสดงบนป้ายโฆษณาดิจิทัลตลอดทั้งเดือนนี้ จะย้ำเตือนและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนทำเช่นเดียวกัน โดยการใช้สื่อนอกบ้านของแบรนด์ก็ทำให้แคมเปญเกี่ยวกับ Pride Month เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และแบรนด์ก็ได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากกว่าเดิมจากกลุ่ม LGBTQ+ อีกด้วย
Dentsu Italy
โดย Dentsu Italy ได้ทำการร่วมมือกับ 10 แบรนด์ดัง อย่าง Nestle , Sky , Very Moblie , Fastweb , Plasmon , KFC , ENGIE , Pringles , WindTre , HEINZ ในการสนับสนุนความเท่าเทียมและความแตกต่างของชาว LGBTQ+ โดยได้แนวคิดแคมเปญนี้มาจาก สายรุ้งที่มีความหลากหลายแต่สวยงามเมื่ออยู่ร่วมกัน Dentsu และแบรนด์ต่าง ๆ ได้นำสีหลักของแบรนด์ดังที่ได้กล่าวไปด้านต้น เข้ามารวมกันจนได้เป็นสีรุ้ง โดยแต่ละแบรนด์ก็มีสีหลักที่แตกต่างกันไป และการนำสีหลักของแต่ละแบรนด์มารวมกัน ก็เปรียบเสมือนกับการที่จะรวมเอาความหลากหลายของชาว LEBTQ+ เข้าร่วมกลายเป็นหนึ่งเดียวนั้นเอง โดยสื่อนอกบ้านชิ้นนี้ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ในเมืองมิลาน Piazzale Lodi และภายในสถานีรถไฟใต้ดิน Cadorna ที่มีผู้คนสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลา แคมเปญนี้สร้างความสนใจให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมาได้พบเห็นอย่างมาก และได้รับความสนใจโดยตรงกับชาว LEBTQ+ เพราะแคมเปญนี้สร้างมาตรงใจกับชาว LEBTQ+ ที่ต้องการรวบรวมความหลากหลายให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
Gilette Stadium
Gilette Stadium สนามประจำของทีม New England Patriots เป็นสนามที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน และปัจจุบันยังเป็นสนามที่ใช้งานในสังเวียน MLS หรือ Major League Soccer ที่จุผู้ชมได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยมีความจุที่นั่งอยู่ที่ 65,878 ที่นั่ง โดย Gilette Stadium ได้ปรับแต่งสเตเดียมใหม่เพื่อเฉลิมฉลองในเดือน Pride month โดยใช้สีรุ้งเพื่อแสดงและตอกย้ำถึงความเท่าเทียมความหลากหลาย และหลังจากที่ Gilette Stadium ได้เนรมิตสเตเดียมใหม่เป็นการสนับสนุน LGBTQ+ ในกระแสสังคมออนไลน์ก็ได้แตกออกเป็นหลายเสียงทั้งสนับสนุนวิจารณ์ ไปในแง่ทั้งบวกและลบ แต่แล้วทีมโซเชียลมีเดีย ก็ได้ออกมาตอบกลับว่าทางทวิตเตอร์หลักของสโมสรว่า “เราได้ดูทุกความคิดเห็น และพื้นที่นี้ไม่มีที่ว่างสำหรับความเกลียดชัง” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหนักแน่นในการสนับสนุนแคมเปญ Pride month ของทีม New England Patriots ทำให้การเปลี่ยนแปลงสเตเดียมของ Gilette Stadium และความหนักแน่นในครั้งนี้ได้รับคำชมอย่างมากในโลกออนไลน์
และนอกจากแบรนด์ต่าง ๆ จะผลิตสื่อนอกบ้านออกมาเป็นป้ายหรือสร้างสรรค์สถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นแลนด์มาร์กที่แสดงจุดยืนกับการสนับสนุนส่งเสริม Pride Month ในบางแบรนด์ก็มีการเปลี่ยน Packaging หรือรูปโลโก้หลักให้เข้ากับสถานการณ์ Pride Month อีกด้วย อาทิ Ikea , LEGO , Sky , Tinder และ McDonald’s เป็นต้น
Samyan Mitrtown
กลับมาที่ประเทศไทยของเรา บอกเลยว่าก็ไม่น้อยหน้าต่างประเทศ จัดเต็มสุด ๆ ในการต้อนรับ Pride Month ของสามย่านมิตรทาวน์ ที่เนรมิตพื้นที่รอบตัวห้างให้เต็มไปด้วยสายรุ้ง เพื่อตอกย้ำในการเป็นแลนด์มาร์กของกลุ่ม LGBTQ+1มีการใช้สื่อนอกบ้านในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแคมเปญนี้เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นป้ายไฟ LED ที่มีข้อความว่า “ Love is Love #เพราะความรักมีหลากหลาย” ที่แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมของการรักกันแบบไม่จำเพศ และเส้นทางเดินสีรุ้งที่ทอดยาวตลอดอุโมงค์เชื่อมมิตรด้วย LED Infinity Mirror ตลอดสาย
นอกจากทางเดินด้านล่างที่เป็นอุโมงค์แล้ว สามย่านมิตรทาวน์ยังเนรมิตทั้งบริเวณห้างให้เข้ากับ Pride Month ไม่ว่าจะเป็นลูกโป่งทั้ง 6 สีของธงสีรุ้งมากกว่า 4000 ลูก ที่เป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลาย สีสันสดใสและความสุข เหมือนแรงขับเคลื่อนที่อยากให้คุณแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ และสามารถร่วมเช็กอินได้ในตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 -30 มิถุนายน 2565 และหลังจากที่สามย่านมิตรทาวน์ได้ปล่อยแคมเปญนี้ออกไป ก็ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดกระแสการไปเช็กอินถ่ายรูปตาม ๆ กันลงโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก
ประโยชน์ของการใช้สื่อนอกบ้านในการเข้ามามีส่วนร่วม
1. สามารถเข้าถึงได้อย่างง่าย ไม่มีความซ้ำซ้อนในการเข้าถึง
2. สามารถเลือกครองกลุ่มเป้าหมายได้จากทำเลอย่างดี เช่น ต้องการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ LGBTQ+ หรือกลุ่มคนทำงาน เป็นต้น
3.ให้ความถี่ในการมองเห็นที่สูง การมองเห็นต่อ 1 คนอาจจะมากกว่า 1 รอบต่อวัน
4. ต้นทุนในการเข้าถึงสื่อนอกบ้านนั้นมีราคาที่ไม่สูงมาก
5. หากดีไซน์ให้เกิดความแตกต่าง โดดเด่น สามารถสร้างภาพจำแก่คนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างดี
สื่อนอกบ้านในปัจจุบันสามารถสร้างอิทธิพลได้อย่างมาก ไม่ใช่เพียงแต่สร้างอิทธิพลให้กับ Pride Month เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสื่อออนไลน์อาจจะเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากในชีวิตประจำวัน แต่แบรนด์ดังหลาย ๆ แบรนด์ไม่เคยทอดทิ้งสื่อนอกบ้านเลย ดังนั้นหากแบรนด์เลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับงานที่ได้ทำออกมาก็จะทำให้แบรนด์ ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับแบบตัวอย่างด้านบนได้แน่นอน และ #signaturemedia ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ร่วมผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมทางสิทธิเสรีภาพของทุกเพศ Be Proud of Who You Are
ติดต่อสอบถาม
เบอร์โทร: 0855544222
ไลน์ไอดี: @signaturemedia
อีเมล: signaturemedia.th@gmail.com
เว็บไซต์: https://www.signaturemedia.co.th
REF: dentsu-com. fox2now-com. , www.si.com , marketingoops.com
#OOH #Pridemonth #LGBTQ+